วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

รูปแบบการสอน การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active leaning) 4P1E


รายงานผลการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5

1. ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารภาษาอังกฤษ  เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาภาษาอังกฤษ  ชั้นประถมศึกษาปีที่  6   เรื่อง Knowing Your Feel โดยใช้รูปแบบการสอน การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active leaning)  4P1E

2.ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ปัจจุบันนี้ เรื่องของ Active Learning นับเป็นสิ่งที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในการศึกษาช่วงศตวรรษที่ 21 นี้ ด้วยเพราะเป็นแนวจัดการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และตอบสนองต่อการพัฒนาของสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยความหมายของ Active Learning (การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ) นั้น หมายถึงกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและเรียนรู้อย่างมีความหมาย โดยผ่านการกระทำและร่วมมือกันระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ซึ่งเกิดขึ้นจากสมมติฐาน 2 ประการ อันได้แก่ 1. การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์ 2. แต่ละคนมีแนวทางในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน (ทรูปลูกปัญญาม, 2562)Active Learning จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก  ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์  สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สถาพร  พฤฑฒิกุล, 2558)

วิธีการสอนแบบ 3Ps หมายถึง เทคนิควิธีสอนภาษาอังกฤษแบบหนึ่งของลิตเติลวูด(Littlewood) ซึ่งประกอบด้วย การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นนำเสนอ P1 (Presentation) เป็นการนำเสนอบทเรียนเป็นคำศัพท์หรือ/และรูปประโยคให้ชัดเจนด้วยการฟัง พูด 2) ขั้นฝึก P2 (Practice) เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกภาษาด้วยวิธีการต่างๆ เน้นการสื่อสารการฟังและการพูด ที่นำเสนอในขั้น P1 ให้คล่องแคล่วก่อนแล้วจึงฝึกอ่าน 3) ขั้นนำไปใช้ (Production) ให้นักเรียนอ่าน - เขียนทำแบบฝึกหัด หรือนำภาษาไปใช้ และบูรณาการทักษะในการนำภาษาไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆ

จากการศึกษาปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  6  โรงเรียนบ้านผาขาม  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น  เขต  5  พบว่าผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน      (O-NET)  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ปีการศึกษา 2566  ในมาตรฐานที่  ต.3.1  ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของสถานศึกษากำหนด คือ พูดหรือเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองเพื่อน และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ประโยคและข้อความที่ใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน เพื่อน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล เรียกสิ่งต่างๆ จำนวน           1-1000 ลำดับที่ วันเดือน ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรมที่ทำ สี ขนาด รูปทรงที่อยู่ของสิ่งต่างๆ ทิศทางง่ายๆ สภาพดินฟ้าอากาศ อารมณ์ ความรู้สึก เครื่องหมายวรรคตอน   (สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์กรณ์มหาชน , 2562) 

จากหลักการและเหตุผลข้างต้น  ผู้ศึกษาจึงมีความสนใจจะพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารภาษาอังกฤษ  เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาภาษาอังกฤษ  ชั้นประถมศึกษาปีที่  6   เรื่อง Knowing Your Feel โดยใช้รูปแบบการสอน การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active leaning)  4P1E  เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยการใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL) และ การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) ผ่านกระบวนการการเรียนการสอน ( ขั้นที่ 1 Problem )  โดยการกำหนดปัญหาในการเรียนของผู้เรียนการ (ขั้นที่ 2 Presentation) ขั้นนำเสนอ (ขั้นที่ 3 Practice) ขั้นฝึก  (ขั้นที่ 4 Production) ขั้นนำไปใช้ (ขั้นที่ 5 Evaluation ) ขั้นการประเมินผลรวม

ผู้วิจัยในฐานะครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนบ้านผาขาม จังหวัดขอนแก่น และจากสถานการณ์ข้างต้นนั้น ผู้วิจัยมีความสนใจในการศึกษา ผลิตสื่อนวัตกรรม รวมกับการใช้สื่อการสอนออนไลน์ การใช้สื่อออนไลน์ wordwall เพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนโรงเรียนบ้านผาขาม จังหวัดขอนแก่น เพื่อนำมาเผยแพร่ให้เกิดประโยชน์ในการ จัดการเรียนรู้ที่ช่วยการพัฒนาทักษะการอ่านและการสื่อสารภาษาอังกฤษ   และทางผู้จัดนำองค์ความรู้ ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพต่อไป

8.  ผลการนำไปทดลองใช้

 

12.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1. นักเรียนสามารถบอกคำศัพท์และประโยคที่เกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้  โดยนักเรียนทั้งหมด 16 คน มีคะแนนเฉลี่ยจากกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 75 ขึ้นไป และผ่านเกณฑ์การประเมินที่ครูผู้สอนกำหนดทุกคน    ซึ่งมีรายละเอียดคะแนนจากกิจกรรมดังนี้

- กิจกรรม Happy Box game มีคะแนนเต็ม 12 คะแนน โดยสามารถแบ่งกลุ่มคะแนน

ของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1) นักเรียนได้คะแนน 9 คะแนน หรือร้อยละ 75 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

2) นักเรียนได้คะแนน 10 คะแนน หรือร้อยละ 83.34 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 50

3) นักเรียนได้คะแนน 12 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 85.41

- ใบงานเรื่อง Exercise 1การเขียนคำศัพท์เรื่อง feeling ซึ่งมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยสามารถแบ่งกลุ่ม

คะแนนของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1) นักเรียนได้คะแนน 8 คะแนน หรือร้อยละ 80 จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 18.75

2) นักเรียนได้คะแนน  9 คะแนน หรือร้อยละ 90  จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 50

3) นักเรียนได้คะแนน 10 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 20

ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 91.87

- กิจกรรม Sentences Board มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน โดยสามารถแบ่งกลุ่มคะแนน

ของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1) นักเรียนได้คะแนน 17 คะแนน หรือร้อยละ 85 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

2) นักเรียนได้คะแนน 18 คะแนน หรือร้อยละ 90 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

3) นักเรียนได้คะแนน 19 คะแนน หรือร้อยละ 95 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

4) นักเรียนได้คะแนน 20 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 92.5

- ใบงานเรื่อง Exercise 2 เรื่อง การเขียนประโยคซึ่งมีคะแนนเต็ม 12 คะแนน โดยสามารถแบ่งกลุ่ม

คะแนนของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1) นักเรียนได้คะแนน  9 คะแนน หรือร้อยละ 75 จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5

2) นักเรียนได้คะแนน 10 คะแนน หรือร้อยละ 83.34 จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 56.25

3) นักเรียนได้คะแนน 12 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 31.25

ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 88.02

          12.2 ด้านทักษะ (Process)

1. นักเรียนสามารถเขียนบทสนทนาเกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ โดยนักเรียนทั้งหมด 16 คน       มีคะแนนเฉลี่ยจากกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 75 ขึ้นไป และผ่านเกณฑ์ การประเมินที่ครูผู้สอนกำหนดทุกคน ซึ่งมีรายละเอียดคะแนนจากกิจกรรมดังนี้

- ใบกิจกรรมบทบาทสมมติ (Interactive Worksheet) ซึ่งมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

โดยสามารถแบ่งกลุ่มคะแนนของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1)      นักเรียนได้คะแนน 8 คะแนน หรือร้อยละ 80 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 50

2)      นักเรียนได้คะแนน 9 คะแนน หรือร้อยละ 90 จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5

 

3) นักเรียนได้คะแนน 10 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5

                           ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 88.75

2. นักเรียนสามารถพูดสนทนาเกี่ยวกับเกี่ยวกับการแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ โดยนักเรียนทั้งหมด 16 คน      มีคะแนนเฉลี่ยจากกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 75 ขึ้นไป และผ่านเกณฑ์การประเมิน

ที่ครูผู้สอนกำหนดทุกคน ซึ่งมีรายละเอียดคะแนนจากกิจกรรมดังนี้

 

- กิจกรรมการแสดงบทบาทสมมติ (Role - playing) ซึ่งมีคะแนนเต็ม 20 คะแนน โดยสามารถ

แบ่งกลุ่มคะแนนของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1) นักเรียนได้คะแนน 16 คะแนน หรือร้อยละ 80 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

2) นักเรียนได้คะแนน 18 คะแนน หรือร้อยละ 90 จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5

3) นักเรียนได้คะแนน 20 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5

ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 87.5

- คลิปวิดีโอการแสดงบทบทบาทสมมติ (Role - playing) ซึ่งมีคะแนนเต็ม 20 คะแนน โดยสามารถ

แบ่งกลุ่มคะแนนของนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้แก่

1) นักเรียนได้คะแนน 18 คะแนน หรือร้อยละ 90 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 25

2) นักเรียนได้คะแนน 20 คะแนน หรือร้อยละ 100 จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 75

                              ผลรวมค่าเฉลี่ยนักเรียน จำนวน  16 คน  คิดเป็นร้อยละ 97.5

12.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)

1. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร คิดเป็นร้อยละ 100 โดยนักเรียนทั้งหมด

16 คน มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์คะแนน 8 คะแนนขึ้นไป (ร้อยละ 80) หรือระดับดีเยี่ยมทุกคน

12.4 ปัญหา/อุปสรรค

1. ในขั้นตอนของการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมฝึกภาษา ในบางกิจกรรมยังไม่สัมพันธ์กับเวลา

เนื่องด้วยอาจใช้เวลาในการทำกิจกรรมมากหรือน้อยเกินไป ส่งผลให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้นั้นได้ยังไม่

เต็มที่

2. การออกแบบกิจกรรมการฝึกทักษะการพูดที่เน้นให้นักเรียนได้ฝึกพูดทุกคนในชั้นเรียนนั้น มีข้อจำกัด

ด้านเวลาในการทำกิจกรรม ส่งผลให้ยังมีนักเรียนบางคนที่ไม่ได้ฝึกทักษะการพูดอย่างเต็มที่

12.5 ข้อเสนอแนะ/แนวทางการแก้ไข

1. ครูผู้สอนควรปรับกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมฝึกษาที่สัมพันธ์กับเวลา อาทิการปรับลดขั้นตอน

ในการฝึกภาษาจากเกม ปรับลดจำนวนคำศัพท์หรือประโยคเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะทางภาษาอย่างเต็มที่

2. ครูผู้สอนสามารถแก้ปัญหาโดยให้นักเรียนกลุ่มดังกล่าวมาฝึกทักษะการพูดนอกเวลา เช่น เวลา

พักกลางวัน หรือเวลาหลังเลิกเรียน นอกจากนี้ยังสามารถมอบหมายให้นักเรียนฝึกทักษะการพูดนอกเวลาเรียน

โดยการบันทึกวิดีโอการพูดแล้วนำส่งครูผู้สอนภายหลัง

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น